โควิด-19 การระบาดในประเทศเพื่อนบ้าน

โดยเฉพาะพม่าในช่วง 10 วันที่ผ่านมามีการระบาดอย่างมาก เริ่มจากเมืองที่ติดต่อกับบังคลาเทศ เมืองสิตตะเวในรัฐยะไข่ มีแนวโน้มที่จะกระจายไปยังเมืองอื่นโดยเฉพาะเมืองตามชายทะเล
ในเวลา 1 สัปดาห์ ยอดผู้ป่วยได้เพิ่มขึ้นเกือบเท่าตัว สิ่งที่สำคัญคือพรมแดนธรรมชาติที่ติดต่ออันยาวไกล มีการเคลื่อนย้ายของประชากรอาจจะเหนือความควบคุม ทำให้เป็นจุดเริ่มต้นของการระบาดในประเทศไทยได้ ประกอบกับฤดูกาลนี้เป็นฤดูกาลที่มีโรคทางเดินหายใจชุกชุม ความสามารถในการตรวจวินิจฉัยตั้งแต่เริ่มแรก เพื่อยับยั้งการระบาดเป็นเรื่องสำคัญมาก มีค่าใช้จ่ายสูง การตรวจที่ดีที่สุดคือการตรวจหาสารพันธุกรรมของไวรัสจะมีความไวสูงสุด

สำหรับประเทศไทยจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องเพิ่มอัตราการตรวจ โดยเฉพาะในแรงงานต่างด้าว บุคคลที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย การนำไปไว้รวมกันก็สุ่มเสี่ยงต่อการระบาดเป็นอย่างยิ่งเพราะสภาพแวดล้อม จะเอื้ออำนวยให้เกิดการระบาด สิ่งที่ถูกต้องจะต้องทำแบบ State quarantine สำหรับผู้ที่เข้าเมืองโดยผิดกฎหมายก่อนที่จะส่งกลับซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเกิดขึ้นจำนวนมาก

นับแต่นี้ต่อไป การตรวจวินิจฉัยเชิงรุกในประเทศไทยจำเป็นที่จะต้องทำเพิ่มขึ้น ขีดความสามารถในการตรวจของประเทศไทยมีสูงมาก เพราะขณะนี้มีห้องปฏิบัติการที่ตรวจพันธุกรรมของไวรัสได้ประมาณ 250 แห่ง ปัญหาจึงอยู่ว่าใครจะเป็นผู้ออกค่าใช้จ่ายในส่วนนี้ ประเทศไทยจำเป็นต้องอาศัยแรงงานจากต่างประเทศ การนำเข้าแรงงาน ถ้ามีการ Quarantine ก็จะมีค่าใช้จ่าย จึงเป็นเหตุหนึ่งที่ให้แรงงานต่างๆลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย

การระบาดในสิงคโปร์และมาเลเซียที่ผ่านมา ก็เกิดจากแรงงานต่างประเทศ เรามีบทเรียนจากสิงคโปร์และมาเลเซีย น่าจะนำมาใช้ในการป้องกันไม่ให้เกิดการระบาดเกินการควบคุมของประเทศไทย

Total Page Visits: 1153 - Today Page Visits: 1